วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555

วันฟ้าดับ หรือ โลกแตก

110

หลังมีเรื่องให้คิดถึงว่า ใกล้ถึงสิ้นโลกผ่านมาแล้วหลายเรื่อง จนแทบนับไม่ถ้วน มาคราวนี้ กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันในโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังจากมีผู้นำบทความเรื่อง วันฟ้าดับ โพสในเว็บไซต์ดัง ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา และมีการส่งต่อกันจำนวนมาก โดยบันทึกดังกล่าวมีชื่อว่า บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ ซึ่งได้บอกถึงภัยพิบัติต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นใน วันฟ้าดับ และภาพคนล้มตายมากมาย ซึ่งบทความดังกล่าวได้เขียนไว้ดังนี้

หลังจากไตร่ตรองอยู่หลายวัน ผมตัดสินใจนำบันทึกทั้งหมดของหลวงลุงออกมานำเสนอก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติมากเกินไปกว่าที่จะคาดเดาได้ของมนุษย์ชาติ ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย โดยที่ผมมีส่วนได้เห็นคำบันทึกอันเนื่องมากจากญานทัศนะของหลวงลุง โดยหากผมไม่ได้นำมาเสนอให้มีการเตรียมการกัน จะเป็นบาปติดอยู่ในใจผม ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์แบบในบันทึกที่หลวงลุงได้เขียนไว้ แม้นว่าตัวผมเองจะได้วางอุเบกขา แต่ว่าถ้าไม่ได้เผยแพร่ออกไปจากผม สิ่งนี้ถือว่าผมขาดเมตตา จะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องของบุญกรรมของท่าน ในส่วนตัวผมเองถือว่าได้เผยแพร่สิ่งที่ติดค้างในใจของผมแล้ว ผมขอแบ่งบันทึกออกเป็น 4 ตอนนะครับ….ส่งข่าวโดยหลานวิกรม

1. เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันฟ้าดับ

2. เรื่องราวที่จะเกิดตามมาหลังวันฟ้าดับ 3 วัน

3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวันฟ้าดับ

4. ชาวไทยจะเผชิญกับสิ่งใดบ้าง

1.เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันฟ้าดับ

วิกรมหลานลุง หลังจากลุงได้แจ่มชัดในญาณทัศนะในสิ่งที่จะเกิดขึ้นแล้ว ทำให้จิตใจของลุงเองเศร้าหมอง จนไม่อาจข่มจิตให้เป็นอุเบกขา ว่ามนุษย์ทุกคนล้วนมีกรรมเป็นของตัวเอง การเข้าไปก้าวล่วงในกรรมของผู้อื่นนั้น ผู้ที่เข้าไปเปลี่ยนแปลงนั้นจะต้องเป็นผู้แบกรับกรรมนั้นๆไว้ ลุงจึงขอแจ้งสิ่งต่างๆที่ได้เห็นมาเล่าสู่กัน โดยถือว่าลุงได้ทำหน้ารายงานข่าวเท่านั้น ใครได้พบแล้วจะเชื่อไม่เชื่อนั้นเป็นเรื่องของผู้อ่านจะใช้ดุลวินิจเอง หลังจากเขียนบันทึกนี้แล้วลุงตัดสินใจที่จะออกบวช เรื่องราวที่ได้มีการเตรียมการกันไว้นั้น ฝากให้หลานดูแล ประสานกับคุณลุงประสิทธิ์ และกลุ่มบ้านพุทธบุตร เพื่อช่วยเหลือกันตามกำลังบุญต่อไป

เรื่องราวที่ลุงบันทึกทิ้งไว้ให้หลานนี้ ทั้งหมดเพื่อไม่ให้หลานและคณะเกิดความประมาท ในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ทั้งในด้านการเตรียมการภายนอกและการเตรียมการภายใน เน้นย้ำเรื่องการฝึกตายก่อนตาย เพื่อให้จิตคุ้นเคยกับอาสัญกรรมในทางสว่าง ให้กับน้องๆ และหลานๆทุกคนด้วย เพราะกุญแจดอกแรกที่จะเปิดเข้าไปในโลกแห่งวิญญานนั้น

กรรมที่แรงสุดคืออาสัญกรรม เพราะถ้าจิตผูกยึดกับสิ่งใดในขณะที่ขาดห้วงลมหายใจสุดท้ายนั้น ถ้าหากมีเพียงแค่เสี้ยวอึดใจ อาจจะถลำลงสู่อบายภูมิถ้าจิตเป็นอกุศล หมั่นทำทานในสิ่งที่ยากๆ เพื่อไม่ให้ตนติดยึดกับคนสัตว์สิ่งของใดๆ อันจะเป็นแรงเหนี่ยวรั้งเรา ไปสู่การเกิดที่ไม่เป็นกุศล หมั่นเจริญมรณานุสสติ เรื่องราวที่ลุงได้บันทึกไว้ให้หลานนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดจากญาณทัศนของลุง เพื่อให้หลานจะได้เตรียมตัว เตรียมใจ วันเวลาอาจจะมีการคลาดเคลื่อนบ้าง ตามเหตุและปัจจัย แต่เรื่องราวที่จะเกิดขึ้น สิ่งเตือนของวันเกิดภัยพิบัตินั้น ไม่เปลี่ยนแปลง

เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นนั้น ลุงขอเรียกว่าวันฟ้าดับก็แล้วกัน เพราะในยามนั้นสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกด้านมืดสนิท (ซีกโลกที่ประเทศไทยตั้งอยู่จะมืด 6 วันก่อนโลกจะย้ายขั้ว ส่วนพื้นที่โซนมหาสมุทรแอตแลนติกจะสว่างตลอดเวลา เป็นพื้นที่ดาวหางดวงใหญ่กว่าโลก 4 เท่า Planet X มีมวลมากกว่าโลก 23 เท่า ดูดตรึงกับรอยแยกกลางมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ ที่มีสนามแม่เหล็กเข้ม ทำให้โลกค่อยๆหมุนรอบตนเองช้าลงจนหยุดหมุน 6 วัน…ส่วน 3 วันฟ้าดับที่หลวงลุงเล่าไว้ เป็นตอนแรกในช่วง Severe Wobble แล้วต่อมาพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกอีก 6 วัน) แม้แต่ในยามที่เราหลับตายังมีความสว่างมากกว่าเสียอีก ลุงบันทึกหลังจากอธิษฐานไปยังวันก่อนหน้า ที่จะเกิดภัยพิบัติแก่บ้านเรา 3 วันเจ็ดวัน ก่อนหน้านั้น ลุงเห็นคนที่มีจิตเป็นอกุศลกรรม ได้มีการฉลอง จุดพลุ ร้องเพลงปีใหม่และนับถอยหลังในวันสิ้นปี (ลุงจึงคาดว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นหลังงานฉลองสิ้นปีใหม่) (ในประเด็นนี้อาจเป็นกรณีของน้องปลาบู่เตือนไว้ แผ่นดินไหวและเขื่อนพัง หากโลกได้รับผลกระทบจาก PX Retrograde ใกล้ครบ 180 องศา ชี้ขั้วเหนือเฉียดมายังโลก มีบางท่านกล่าวว่าเดือนมีนาคม 55 ก็จะเริ่มต้นมีเหตุการณ์ให้เห็นกันแล้ว อาจหมายถึง Planet X มาให้เห็นด้วยตาเปล่า ก่อนมีนานิดหนึ่ง PX ได้มาปรากฏโฉมอยู่เหนือตำแหน่งดาวศุกร์เล็กน้อย ฟ้าจะมืดไป 3 วันตามช่วงเวลาของ Secklendorf CC โลกส่วนเหนือเส้นศูนย์สูตรจะมืด 3 วันราวปลายเดือนสิงหาคมต่อกับต้นเดือนกันยายน) ลุงเห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป ในลักษณะที่อธิบายไม่ถูก แต่มีความแตกต่างและเห็นได้เจนทั้งขนาดและความสว่าง (จุดนี้น่าจะเป็นสัญญานเตือนให้มีการเตรียมการกันนานหลายวัน) ….Venus Looming เริ่มแล้วก่อนเดือนมีนาคม 2555….หลังจากดาวศุกร์หายหน้าไป โลกจะอยู่ต่อหน้า PX

_แม่ริมการ์เด้นซิตี้_แม่ริม_เชียงใหม่_190320121003_642

(ปัจจุบันผู้ที่เฝ้าสังเกตการณ์การปรากฏตัวของดาวศุกร์ก็พบว่าเดินแปลกๆ หรือบางโอกาสหายหน้าไปเลย…ย้ายวงโคจร…. สำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงต้องเคลื่อนย้ายเตรียมสถานที่หลบภัยล่วงหน้า เช่นผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มเจ้าพระยาที่กำลังทรุดตัว ถูกแนวเขาทั้งด้านตะวันออกและตะวันตกบีบกดตลอดเวลา และจะเกิดน้ำทะเลท่วมภายในเวลาเพียงชั่วโมงเดียว หลังจากประเทศอินโดนีเซียจมลงไปเต็มพิกัด 80 ฟุตที่ปลายใต้สุดประเทศติดต่อกับประเทศออสเตรเลีย

ซึ่งเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นก่อนโลกย้ายขั้ว…คนไทยและชาวเอเชียบนแหลมอินโดจีน จะจมน้ำทะเลนับร้อยล้านชีวิต จึงจะเกิดเป็นข่าวช๊อคโลก ที่คุณ Zeta พยากรณ์เอาไว้ล่วงหน้า….ผู้ที่พำนักอยู่บนพื้นที่เสี่ยงต่างๆรวมทั้งในภาคใต้ตลอดแนวชายฝั่งทะเล ต้องพิจารณาเอาชีวิตรอดในช่วงเหตุการณ์ 7/10 ก่อนหน้าโลกย้ายขั้วให้ได้ก่อน จึงจะมีโอกาสอยู่เผชิญเหตุการณ์โลกย้ายขั้ว ที่ปรากฏขึ้นในญาณทัศนะของหลวงลุง ลูกศิษย์องค์หนึ่งของหลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร ที่คุณวิกรม กรุณานำมาเปิดเผยในเว็บพลังจิต)

ในวันฟ้าดับ ก่อนหน้านั้นจะมีฝนตกต่อเนื่องกันหลายวัน แล้วในวันนั้นไร้ฝน ฟ้าหม่นหมองยิ่งนัก ใบไม้เงียบจนไม่พลิกใบ ฝูงสัตว์เลี้ยง สัตว์ป่า จะครวญครางแอบหมอบ ลุงเห็นฟ้าสว่างโร่อย่างไม่เคยเห็นมาก่อน (ทำให้ลุงนึกถึงเรื่องราวที่คนเล่าถึงแสงสว่างจากระเบิดปรมาณู) ในยามที่เกิดแสงสว่างลุงเตือนหลานและทุกคนอย่าพยายามที่จะมองหาต้นทางของแสง เพราะหลังจากนั้นลุงเห็นภาพคนที่ตามืดบอดเนื่องจากแสงจักรวาลที่ฟาดลงมาแทงทำลายตาของเขา (สุริยจักรวาลและโลกเดินมาถึงจุดที่ส่งพลังงานจากขอบกาแลกซี่ทางช้างเผือกทาบต่อกับกาแลกซี่ไตรแองกุลัม ตรงไปยังกาแลกซี่อันโดรเมดาที่ครอบอีกสองกาแลกซี่อยู่ จึงถูกพลังงานโต้กลับมาจากอันโดเมดาอันใหญ่โต สว่างไปทั่วจักรวาลต่างๆสว่างวาบขึ้นพร้อมๆกัน….รอดูคงได้เห็นแม้โซนประเทศไทยระหว่างโลกหยุดหมุนรอบตนเองแล้วจะอยู่ซีกมืดก็ตาม)

แต่หลังจากเกิดแสงนี้แล้วหลานยังมีเวลาเตรียมตัว ในช่วงนี้เองสัตว์ต่างๆจะตื่นกลัววิ่งหนีแบบไม่มีทิศทาง บ้านเราถ้ามีสัตว์ใดขอให้หลานอย่าได้กักขังเขา เพราะจะเป็นอันตราย แม้แต่สัตว์ที่เชื่องที่สุดก็ตาม แต่ก็มีบางตัวที่จะรอดนั้นจะหมอบตัวสั่นใกล้ๆกับมนุษย์

ในยามนี้ขอให้หลานได้เข้าไปยังสถานที่ ที่มีการเตรียมการและปิดให้มิดชิด อาหาร น้ำ ยา และชุดยังชีพให้ทุกคนแยกติดตัวไว้ อย่าเอามารวมกันเพื่อจะแบ่งกัน เพราะอาจจะลำบากมาก ในการติดต่อแม้แต่อยู่ใกล้ๆกัน

ส่วนการย้ายเข้าที่ปลอดภัย และที่มีมีการเตรียมการอพยพขอให้หลานๆได้เตรียมตัวกันเต็มที่หลังจากที่เห็นดาวเหนือเปลี่ยนไป หลังจากที่มีแสงจักรวาลเข้ามาแล้วอีกไม่นานนัก ลุงเห็นภาพคนกำลังทานข้าวกันอยู่ จะเกิดเหตุการณ์โลกเราเหมือนกับชนกับอะไรซักอย่าง คนที่อยู่บนผืนดิน เหมือนคนที่อยู่บนรถขนาดใหญ่ที่มีการชนกัน ภาพคนคนล้มไถล ไปกับพื้น ตึกพังทลายราบลงมาทันที (เป็นลักษณะอาการที่โลกได้ย้ายขั้วแล้ว 90 องศาแล้วหยุด หลังจากมืดผ่านมา 6 วัน ต้องเตรียมนาฬิกาแบบไขลานแล้วบันทึกเวลาเอาไว้ระหว่างที่โลกเริ่มมืด ไม่สว่างอีกนั้น หรือโลกหยุดหมุนรอบตนเอง จะได้ทราบกำหนดเวลาที่โลกกำลังจะย้ายขั้ว เพื่อเตรียมหลบเข้าที่ปลอดภัยที่เตรียมไว้ล่วงหน้า และหากมีโดมพีระมิดที่พระอาจารย์รัตน์เพิ่งค้นพบได้ไม่นานติดตั้งเอาไว้ด้วย จะช่วยให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นระหว่างที่โลกย้ายขั้ว)

ยังไม่ทันได้ตั้งตัว จะมีเสียงดังเหมือนวัวยักษ์ครางอือๆๆๆๆๆ (เสียง Earth moaning แมกม่าไหลเสียดสีกับเปลือกโลก) ขอให้หลานและทุกคนในห้องมั่นคงของเรา หรือคนที่อยู่นอกพื้นที่ให้เข้าไปยังที่มีหลังคาแข็งแรงและปิดหูด้วยอุปกรณ์ป้องกันเสียงที่ลุงได้ให้เตรียมไว้แล้ว เพราะพอเสียงวัวยักษ์ร้องเงียบลง ไม่กี่อึดใจ ลุงเห็นภาพผู้คนวิ่งออกจากตึกเพราะกลัวแผ่นดินไหวที่จะตามมา หลังจากนั้นจะมีเสียงดังที่สุด ซึ่งลุงก็บอกไม่ได้ว่ามันดังแค่ไหน แต่หลังจากนั้นลุงเห็นผู้คนเลือดออกจากรูหูนอนกลิ้งเกลือกไปตามพื้น ตาเถลือกถลน คนที่เอามืออุดหูทันนั้น ก็ยังไม่สามารถป้องกันได้ เพราะลุงเห็นคนที่พยายามสื่อสารกัน แต่เหมือนกับว่าคนในโลกนี้แก้วหูขาดไปหมดสิ้นแล้ว เสียงตะโกนโหวกเหวก แต่ต่างคนต่างไม่รู้เรื่อง ลุงจึงขอย้ำเตือนหลานตรงนี้เรื่องการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันหู ให้ดีที่สุด อาจจะทำให้หนักเป็นเบาได้ (ในเรื่องนี้คุณ Zeta ได้เตือนเรื่องเสียงดังจนหูอื้อ ให้เตรียมปลั๊กยางอุดหูไว้ใช้ส่วนตัวกันหูอื้อ ได้ซื้อเอาไว้เพียง 2 ชุด จะต้องไปหาซื้อจากร้านขายยาเพิ่มเติม แต่คุณ Zetaไม่ได้เล่าอาการที่รุนแรงเช่นในนิมิตของหลวงลุง…..ได้ลองใช้ปลั๊กอุดหูของ 3Mได้ลองใช้ลดเสียงลงได้ 50-60 % จะลองชนิดครอบหูแบบใช้ยิงปืนดู น่าจะลดเสียงได้มากกว่าลูกยาง)

หลังจากนั้นลุงเห็นภาพที่ทุกคนกลับมาตื่นกลัวอีกครั้งจากแผ่นดินไหวรุนแรง และสั่นต่อเนื่องกัน ผิดจากครั้งแรกที่เหมือนจะชนโครมเดียวแล้วหยุด แต่คราวนี้เป็นเหมือนมีคนจับเราอยู่ในกระด้งแล้วเคาะขอบมันอย่างแรงอย่างต่อเนื่อง เสียงหวีดร้องตื่นกลัวดังไประงม แต่ในยามนั้นนิมิตลุงอาจจะมีเพียงลุงในจุดนั้นที่ได้ยินเสียง เพราะภาพคนที่วิ่งไปมามีเลือดไหลออกจากหู ช่างเป็นภาพที่น่าเวทนาที่ลูกหลานที่พ่อแม่หอบออกมาจากอาคารบ้านเรือนที่กลัวแผ่นดินไหว มาเจอเสียงดังก็วิงกลับไปในที่คิดว่าปลอดภัย และพอแผ่นดินไหว ก็พากันวิ่งกระเซอะกระเซิงออกมาอีก (คุณ Zeta พยากรณ์ล่วงหน้าว่า แผ่นดินไหวช่วงโลกย้ายขั้วอยู่ในระดับ 10-15 ริกเตอร์ ที่หลบภัยจึงต้องบุผนังกันกระแทกเอาไว้ด้วย มีผู้คิดถึงอยู่บนเปลญวนก็น่าจะดี สวิงไปมาระหว่างที่ถูกลากไปซ้ายขวาและขึ้นลง แต่อย่าขึงสูงนักหากเปลขาดจะได้ตกไม่เจ็บนัก)

หลานวิกรม... ลุงเห็นภาพที่สร้างความน่าเวทนาสงสารสรรพสัตว์ทั้งหลาย ว่าชีวิตมนุษย์มีเพียงแค่นี้เอง ยังไม่จบสิ้นแค่นี้นะ ภาพผู้คนที่วิ่งหลบแผ่นดินไหวออกมา นั่งกอดกันร้องไห้เป็นกลุ่มๆ มีควันไฟ ที่เกิดจากไฟไหม้ลอยคละคลุ้งไปหมด หลายคนที่เสียสติเริ่มต้นร้องไห้ ภาพพ่อแม่พยายามค้นหาลูกหลานที่ติดอยู่ในซากปรักหักพัง ต่างคนต่างฟูมฟายร้องไห้ ไม่มีใครสามารถช่วยใครได้

ในตอนค่ำลุงเห็นคนมารวมกันมีการก่อกองไฟ อากาศหนาว แต่ลมสงบนิ่ง ตอนนี้ลุงเห็นขอบฟ้าแดงจ้าจนน่ากลัว แล้วสิ่งที่ลุงเรียกว่าวันฟ้าดับก็เกิดขึ้น ลุงเห็นมีแสงสีแดงพุ่งมาจากพระอาทิตย์ วาบหนึ่งจากนั้นแสงทั้งหมดก็จะม้วนเข้าไปในรูปทรงกลม ลุงไม่รู้จะเรียกอะไร น่าจะเป็นพระจันทร์ดำ เพราะเป็นสีดำๆเหมือนจันทรุปราคาที่มาบดบังพระอาทิตย์แต่เล็กกว่ามาก (น่าจะเป็นส่วนหางของดาวหาง PX ยิงตรงออกมาจากขั้วเหนือแม่เหล็ก โดย PX อยู่ทางขวาของดวงอาทิตย์และลอยอยู่ระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ ขยะส่วนหาง PX ซึ่งเต็มไปด้วยฝุ่นสนิมเหล็กพิษสีแดง มีเศษขยะหินขนาดตั้งแต่เม็ดทรายจนถึงเท่ารถบรรทุก 10 ล้อจะแถมลงมาด้วย ส่วนอากาศเปลี่ยนเป็นหนาวเย็นนั้น พื้นที่ประเทศไทยได้ย้ายไปอยู่ใกล้กับขั้วโลกใต้ใหม่แล้ว ระหว่างที่โลกหยุดกึ๊ก อากาศจะหนาวเย็นคล้ายๆเมืองคุณหมิงในปัจจุบัน)

แต่ตอนนั้นพระจันทร์ก็ยังเห็นอยู่ แล้วบรรยากาศที่เหมือนเราดับเทียนในห้องมืดที่สุดก็เกิดขึ้น พรึบเดียวแสงทั้งหมดจะหายไป แม้แต่ดวงดาวและพระจันทร์ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ ความมืดในขณะนั้นลุงเห็นคนพยายามยกมือของตนเองขึ้นมาดูก็ยังไม่สามารถเห็นได้ (โลกยังหยุดหมุนรอบตนเอง ประเทศไทยยังอยู่ในซีกด้านมืดอยู่ ยังไม่เริ่มหมุนรอบตนเองใหม่อีกครั้ง) ความตื่นกลัวก็เกิดโกลาหลอีกครั้ง คนจะกอดคนที่อยู่ใกล้ที่สุดแล้วร้องไห้ระงม คนที่อยู่ห่างจากคนอื่นแม้แต่วาใกล้นิดเดียวก็ไม่สามารถหากันเจอ จนกว่าจะคลำหากันเจอ ช่างเป็นภาพที่น่าอเนจอนาถมาก คนส่วนใหญ่ ที่หูจะแตกดับ หรือคนที่อุดหูทันก็จะมีอาการหูอื้ออึงอยู่ (เสียงดังจากฟ้าผ่าฟ้าร้องจะดังมากผิดปกติ ในท้องฟ้ามีประจุไฟฟ้าอยู่มากรับมาจากดาวหาง PX ที่คุณ Zeta เตือนให้เตรียมลูกยางอุดหูไว้ ใช้ป้องกันหูอื้อ) แต่ก็พอยังมองเห็นกัน แต่ในยามมืดสนิทแล้ว เสียงคนพยายามตะโกนหากัน เสียงหวีดร้อง โหยหวนด้วยความกลัว แต่คนส่วนใหญ่จะไม่ได้ยิน ได้แต่สะเปะสะปะไขว่คว้าหากัน อย่างนี้เองลุงถึงได้ย้ำกับหลานว่าให้แยกเป้ที่จัดเตรียมไว้เฉพาะคน และเมื่อเข้าไปอยู่ในที่ห้องปลอดภัยที่ได้เตรียมสร้างไว้ ขอให้หลานสร้างตามแปลนที่ลุงได้เขียนไว้ให้ ตู้คอนเทนเนอร์ที่เตรียมทั้งตู้อาหาร ตู้ปลอดภัย และโรงพยาบาลเคลื่อนที่ด้วย (หากใช้ตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็น เป็นที่หลบภัย จะต้องสร้างฐานยึดตัวตู้ให้มั่นคง ป้องกันตู้พลิก ระหว่างที่เกิดแผ่นดินไหวในขนาด 9-15 ริกเตอร์ และต้องทำร่องระบายน้ำดาษด้วยคอนกรีตรอบตู้เอาไว้ด้วย เนื่องด้วยจะมีฝนตกหนักมากกว่าปกติหลายวัน หรือหลายสัปดาห์ ซึ่งจะสร้างปัญหาให้กับแปลงสวนครัว ที่ต้องมีหลังคาป้องกันฝน)

ตอนนี้ดึกมากแล้ว ลุงง่วงแล้ว แต่ยังอยากบันทึกให้หลานไว้ให้เสร็จก่อนที่จะเดินทางไปหาพระอาจารย์

ภาพที่ปรากฏขึ้นนั้น ลุงรู้สึกเศร้าใจกับญาณทัศนะที่ลุงได้เคลื่อนไปในยามที่เด่นชัดกับเจอภาพภัยพิบัติที่หนักหนาสาหัตกว่าที่ลุงเตรียมการไว้ จนเกิดเวทนาในสัตว์โลก และเห็นการคร่ำครวญของคนที่ไม่เคยศึกษาทางธรรม และไม่ได้เตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น และเตรียมฝึกมรณาสติไว้เลย ในส่วนที่ลุงบันทึกนี้คนที่มีกรรม และไม่เคยฝึกสมถะกรรมฐานผ่านในขั้นรูปญาณและอรูปญาณ 4 นั้น หลานอย่าไปอธิบายเขาเลย เพราะจิตเขาหยาบกว่าที่จะเข้าใจ

ในวันฟ้าดับยังมีเรื่องอเนจอนาถซ้ำเติมมนุษย์ ที่ไม่ได้เตรียมการอีก หลังจากที่มืดมิดแล้วลุงยังเห็นภาพคนคลานหนีหรือกอดกันร้องไห้ เพราะยังมีอาการแผ่นดินไหวเป็นระยะๆ มากบ้างน้อยบ้าง ภาพเพดานสิ่งของเท่าที่คนไปแอบซุกอยู่หล่นลงมา มีคนตายคนเจ็บร้องครวญคราง (เมื่อโลกย้ายขั้วได้หยุดลงแล้ว เปลือกโลกส่วนที่ถูกย้ายมาไว้ที่ตำแหน่งใหม่เช่นขั้วเหนือใหม่ จะถูกแผ่นอื่นที่ตามมาชน เกิดอาฟเตอร์ช๊อคอีกหลายสัปดาห์ หรือหลายๆเดือนหลายสิบปี กว่าเปลือกโลกจะจัดเรียงตัวได้เรียบร้อย เช่นพื้นที่ทวีปอเมริกาเหนือ ถูกส่วนอเมริกาใต้พุ่งเข้ากระแทก ทำให้อเมริกากลางหรือแถบแคริเบียนถูกกดให้มุดเข้าไปใต้แผ่นอเมริกาเหนือ ประเทศอินเดียทั้งประเทศที่ตั้งอยู่บนแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย ถูกแผ่นฮิมมาลาย่ากดให้มุดเข้าข้างใต้ จมลงทั้งประเทศ ร่วมกับปลายแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย รวมพื้นที่จมประมาณ 16 ล้านตารางกิโลเมตร เป็นเหตุให้น้ำจากมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรอินเดีย เคลื่อนตัวเข้ามาเติมที่ว่าง กวาดเอาสิ่งกีดขวางทุกอย่าง บนพื้นที่แหลมอินโดจีนทั้งหมด และฟิลิบปินส์ บรูไนล์ ชาวเกาะมาเรียน่า ถูกคลื่นยักษ์พัดพาไปยังที่ว่างเหนือประเทศอินเดีย ที่จมลึกหลายร้อยเมตร คลื่นยักษ์เดินทางผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง เหลือทิ้งไว้แต่พื้นดินเปล่าๆ อินเดียทั้งประเทศจมลงระหว่างที่โลกย้ายขั้ว ภายหลังจากชะตากรรมของชาวที่ราบลุ่มเจ้าพระยาที่ถูกน้ำทะเลไหลเข้าท่วมมาก่อนหน้านี้ ภายหลังจากประเทศอินโดนีเซียจมลงเต็มพิกัด 80 ฟุต ที่ปลายใต้สุดประเทศติดกับประเทศออสเตรเลีย)

แต่วิกรม…ยังมีสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ คนที่รอดตายขณะนั้นจะตายมากขึ้นอีก ลุงเห็นภาพน้ำแข็งก้อนเท่าทีวี เท่าบาตร หรือบางก้อนขนาดเท่าตู้เย็นเล็ก ทะยอยตกลงมาจากฟ้า ส่วนก้อนขนาดเท่ากำปั้น ตกกระจายไปทั่ว คนที่หลบหนีหลังคาที่หักโครมครามออกมาท่ามกลางความมืดนั้น มาอยู่ในที่โล่ง ต้องมาตายกับฝนลูกเห็บยักษ์ที่มีความเย็นจัดมาก เพราะลุงเห็นภาพคนแข็งตายอยู่กราดเกลื่อนเต็มไปหมด (ปรากฏการณ์ตรงนี้ จะเป็นข้อมูลการบ้านสำหรับการออกแบบเสาและหลังคาอาคารที่หลบภัยได้อย่างดี รวมทั้งกระแสลมแรงผิดปกติอีกด้วย)

แต่ภาพที่เกิดหลังจากนี้ที่หลานคงคิดว่ามนุษย์ชาติจะอยู่อย่างไร เมื่อลุงอธิษฐานไปยังหลังจากนี้แล้ว กลับยิ่งอเนจอนาตยิ่งกว่า ลุงจะได้พยายามทบทวนเรียบเรียงสิ่งที่ลุงเห็นมา บันทึกไว้ให้หลานๆได้นำไปเตรียมตัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นทั้งหมด ในสิ่งที่ลุงเห็นมานั้น ไม่เคยแจ่มชัดเท่านี้มาก่อน แต่สิ่งที่ลุงได้อธิษฐานว่าถ้าลุงมีบารมี และมีบุญที่เกี่ยวเนื่องกับพระอาจารย์โสณะ ขอโปรดเมตตาให้ญาณทัศนะของลุงชัดเจนแจ่มใส จนได้เห็นภาพเหล่านี้ขึ้นมา ขอพระบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอริยะสงฆ์ทุกพระองค์ได้โปรดเมตตาสรรพสัตว์ และหลานๆด้วย

2. เรื่องราวที่จะเกิดตามมาหลังวันฟ้าดับ 3 วัน

วิกรม…ที่ลุงฝากบันทึกนี้ให้หลานเพราะ ลุงคาดว่าต้องใช้เวลาสองสามวัน ที่จะบันทึกให้เสร็จหมด เพราะพิมพ์ได้ช้ามาก และที่มอบให้หลาน เพราะหลานเป็นญาติเพียงคนเดียวที่สามารถแยกกายจิต รวมทั้งฝึกสมถะกรรมฐานได้ในระดับที่จะสามารถสื่อสารทางจิตกับลุงได้ แม้ตอนนี้จะยังไม่สามารถจะไปหน้าหรือย้อนกลับในเรื่องราวของตนเองได้ดี แต่ขอให้หลานตั้งใจฝึกฝน รายชื่อพระอาจารย์ที่หลานควรจะเดินทางไปฝึกฝนต่อไป

บันทึกในส่วนนี้ลุง ขอเล่าในเรื่องหลังจากผ่านคืนฟ้าดับมาแล้ว เพื่อให้หลานๆได้เตรียมตัว บันทึกเมื่อคืนก่อนแม้ลุงจะไม่ได้บันทึกละเอียดได้เท่าที่ลุงเห็นมา แต่ภาพรวมก็คงไม่ขาดไปมาก ที่ลุงต้องรีบบันทึกเพราะวันที่ 17 นี้ ลุงจะเดินทางตามพระอาจารย์ไปยังหลวงน้ำทา ประเทศลาวตอนบน วิกรม…ในส่วนของพื้นที่ๆได้มีการจัดเตรียมไว้นั้น ที่ลุงประสิทธิ์เสนอย้ายให้ไกล้ลงมานั้นและรับคนในหมู่บ้านให้มากเพิ่มขึ้นนั้น ลุงขอเล่าเรื่องที่ลุงเห็นมา จะตัดสินใจอย่างไรแล้วแต่หลานๆจะร่วมกันพิจารณา บันทึกในส่วนก่อนลุงเล่าถึงเรื่องมีก้อนน้ำแข็งที่ตกลงมาจากท้องฟ้า ทำให้อากาศหนาวเย็นและลมแรงมาก ในส่วนของตู้คอนเทนเนอร์ที่นำมาสร้างห้องมั่นคงนั้น ขอให้ใช้ตู้เหล็กขนาดใหญ่ที่ลุงสั่งมา และให้เร่งเสริมเหล็กกันกระแทกด้านบนและด้านข้าง ให้เลือกที่เป็นตู้ที่ใช้สำหรับห้องเย็น เพราะจะช่วยเรื่องอากาศหนาวเย็น หลังจากมีก้อนน้ำแข็งตกลงมาจากฟ้าได้ดี

ในส่วนของตู้สำหรับบรรจุอาหารนั้น ถ้าสามารถรวบรวมเงินได้ ก็ให้เปลี่ยนเป็นตู้แบบตู้ห้องเย็นให้หมด ก็จะปลอดภัยมากขึ้น

เหตุผลที่ไม่ควรย้ายลงมาเพราะว่า ภาพที่ลุงเห็นถัดไปก็คือ หลังจากที่มีการหยุดของโลกกึ๊กหนึ่งนั้น ภาพน้ำข้ามภูเขามาจำนวนมากมาย ลุงเห็นภาพกรุงเทพจมหายไปกับสายน้ำ ภาพเขื่อนภูมิพล และหลายๆเขื่อนลุงไม่แน่ใจว่าอะไรบ้าง บิดร้าว ตัวเขื่อนแม้ไม่แตกสลายแต่ ขอบๆเขื่อนที่เป็นภูเขาเป็นดิน มีรอยร้าว และมีน้ำกัดเซาะเข้าไป จนน้ำทะลุภูเขาไปอีกด้านจนสุดท้ายภูเขาก็แบ่งออกเป็นสองซีก ลุงเห็นภาพน้ำกวาดบ้านไปเหมือนของเล่น

ที่เชียงใหม่บ้านเราได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวมากไม่น้อยกว่าทีอื่นๆ แต่เรื่องน้ำนั้น เขื่อนแม่งัดแม่กวงแตกพังทะลาย น้ำที่แตกมาจากเขื่อนจะกวาดบ้านเรือน ที่อยู่ในส่วนตอนล่าง ลุงเห็นภาพเจดีย์ขาวที่อยู่หน้าเทศบาล ที่ติดแม่น้ำปิงเห็นแต่ตัวยอดนิดเดียว ฝากหลานไปบอกให้เจ้านิดหน่อยกับลูกๆและแฟนเขา ย้ายบ้านมารวมกับหลาน แบ่งพื้นที่หลังบ้านในส่วนของลุงยกให้นิดเลยก็ได้ หรือถ้าไม่อยากสร้างใหม่ก็มาอยู่ที่บ้านหลังเล็กของลุงเลย เพราะแถวแม่ริมนี้จะได้รับผลกระทบจากการพังของเขื่อนน้อย ก็เป็นเพียงแต่น้ำเอ่อล้นแผ่ออกมา แต่คาดว่าแผ่มาแต่ไม่ท่วมถึงหน้าวัดบ้านเราหรือว่าขึ้นมาก็คงไม่สูงมากเพราะปริมาณน้ำในเขื่อนแม่งัดน้อยกว่าเขื่อนแม่กวง

ภาพที่ลุงเห็นในเมืองเชียงใหม่ ตึกรามบ้านช่องที่พังทะลายจากก่อนหน้านั้น ผู้คนออกมาในคืนฟ้าดับนั้น กลับโดนกวาดไปกับสายน้ำ ที่บ้านเราจะรุนแรงและต่อเนื่องกันเพราะเขื่อน บ้านเราอยู่ใกล้เขื่อนน้ำเดินทางเพียงสองสามชั่วโมงเท่านั้นเอง คนแถวสันทราย ดอยสะเก็ด ช่อแล คงเลี่ยงหนีไม่พ้น มวลน้ำทั้งหมดจะกวาดไปผ่านลำพูน ไปทั้งหมด แต่ด้วยระยะทางของน้ำก็จะเสียหายน้อยกว่าแถวสันทราย เมืองสันกำแพง แถวอำเภอบ้านธิ ลำพูน ลุงจะเตือนป้าแดงของหลาน และญาติของเราแล้วแต่เขาเคยฝึกจิต และเชื่อเรื่องการเปลี่ยนของโลกได้อย่างไร คงแล้วแต่บุญกรรมของเขา

แต่การสูญเสียแถบบ้านเราก็น้อยกว่า พื้นที่เขื่อนใหญ่ๆ ที่มีมวลน้ำจำนวนมาก อย่างเทียบกันไม่ได้ ลุงเห็นภาพเจดีย์วัดอรุณฯ เห็นเพียงยอดฉัตรเท่านั้น หมายถึงกรุงเทพ คงไม่มีที่แห้งให้ยืน ลุงย้ำตอนนี้ ขอให้เลือกพื้นที่ อย่างไรก็ให้อยู่ตอนเหนือของเขื่อนหรือหลานจะแนะนำใคร ที่จะย้ายออกมา เพราะเชียงใหม่เองก็ไม่ใช่ว่าจะปลอดภัยทั้งหมด ในยามที่โลกมืดมิดมองไม่เห็นอะไรนั้น พ้นจากแผ่นดินไหวแล้ว สายน้ำก็กวาดลงมาอีก จะมีใครซักกี่คนหนอที่จะรอดผ่านไปได้ ถ้าไม่มีการเตรียมการก่อนล่วงหน้า รวมทั้งการเลือกพื้นที่ๆปลอดภัยก่อน เพราะในยามนั้นไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว อดคิดถึงเชียงราย พะเยา ไม่ได้ ถ้าน้ำจากเขื่อนที่ประเทศจีนสร้างหลายเขื่อนปิดกั้นสาขาต่างๆของแม่โขงไม่รู้จะเสร็จเมื่อไหร่ หากแตกลงมา ที่ว่าเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็หมายถึงมีการกักน้ำได้มากที่สุด จะทะลักมาตอนนั้นอีกมากเท่าไหร่ หลานอย่าแปลกใจเลยที่จุดปลอดภัยของเชียงรายอยู่ที่ดอยตุง

(นอกจากน้ำหลากมาจากเขื่อนต่างๆทั้งในประเทศ และจากต่างประเทศ เช่นจีน และจากลาวแล้ว ทำเลประเทศไทยที่เป็นส่วนหนึ่งของคาบสมุทรอินโดจีน ตลอดจนสุดประเทศอินโดนีเซีย ล้วนตั้งขวางทางเดินของน้ำจากมหาสมุทรแปซิฟิก ที่เดินทางเป็นแนวคลื่นสูงใหญ่ 600-700 ฟุตหรือสูงกว่า 200 เมตรดังในพระพุทธทำนายนั้น จะ Tidal Bore ไต่ข้ามสันเขาของประเทศเวียตนาม ผ่านเข้าพื้นที่ประเทศลาว แล้วเดินทางผ่านที่ราบอิสานมุ่งตรงไปทางตะวันตกสู่พื้นที่ประเทศอินเดีย ที่จมลงไปในเพียงพริบตาพร้อมกับพื้นที่ปลายแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย ประมาณ 16 ล้านตารางกิโลเมตร วิบัติกาลจากน้ำทะเลมหาสมุทรแปซิฟิก เดินทางผ่านประเทศต่างๆที่กล่เพียงไม่กี่ชั่วโมง น้ำก็ลดลงทะเลไปหมดเหลือเอาไว้เพียงผืนแผ่นดินว่างเปล่า เป็นการจมน้ำตายหมู่รอบสอง หลังจากอินโดนีเซียได้จมไปรอบแรกก่อนโลกจะย้ายขั้ว)

มีเรื่องที่หลานต้องเตรียมไว้ด้วยนะว่า ในช่วงของการที่มีความมืดมิดของโลกนั้นใช่ว่าจะเป็นความมืดแบบไม่มีแสงใดๆ คงไม่ใช่ แต่จะมีฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ลงมาเสียงฟ้าผ่าที่ดังกว่าเสียงระเบิด เปรี้ยงๆๆพอๆกับเสียงระเบิดหิน เป็นเวลาก่อนที่ก้อนน้ำแข็งจะร่วงลงมาจากฟ้า เพราะฉะนั้นเวลาที่มืดมิดแล้วเริ่มเห็นแสงขึ้นมาอย่าออกจากห้อง เพราะมันจะเป็นแสงฟ้าแลบ และจะตามมาด้วยก้อนน้ำแข็ง ขอให้หลานๆอย่าได้พยายามที่จะเปิดอุปกรณ์ใดที่เป็นแสงเพราะจะเกิดการผ่าเข้ามาที่บริเวณนั้น แต่ว่าในห้องสามารถที่จะใช้เส้นเรืองแสงที่ลุงให้เตรียมไว้ ในกรณีที่ต้องรักษาอาการบาดเจ็บของคน แต่ต้องปิดประตูให้มิดชิด ให้อยู่ในห้องมั่นคงนั้นอีก 3 วัน หรือจนกว่าอาหารในเป้ ที่เตรียมไว้สำหรับทุกคนหมด…ที่เตรียมไว้ 4 วัน

จึงออกมาจากห้องมั่นคงได้ ในช่วงที่อยู่ในห้องมั่นคง ขอให้หลาน นำน้องๆและลูก สวดบทสวดมนต์ที่ลุงได้บังคับท่องให้ขึ้นใจ ไม่ต้องกลัวว่าใครจะได้ยิน เพราะตอนนั้นคนส่วนใหญ่จะหูแตกหรือยังอื้ออึงอยู่ แต่จะช่วยป้องกันอมนุษย์ หรือสิ่งที่หลุดออกมาจากโลกที่ต่างมิติออกไปเข้ามา หลานเคี่ยวเข็ญให้ยายจุ๊กจิ๊ก กับหนูบ๊วย สวดด้วยอย่างน้อยต้องสวดบทชินบัญชรต้องได้ วิกรม อย่าลืมน้ำผึ้งที่ลุงสั่งไว้ที่ฟาร์มผึ้งสุภาพเอามาเก็บไว้ในห้องด้วย เพราะจะช่วยเด็กๆไม่ต้องทานอาหารแห้งๆอย่างไร้รสชาติไปหลายๆวัน

ย้ำเรื่องการออกจากห้องมั่นคง อย่าออกจนกว่าจะเห็นแสงอาทิตย์จากข้างนอก หลังจากนั้น หลานอย่าได้รอที่จะย้ายขึ้นไปรวมกับลุงประสิทธิ์ แต่ต้องรอสังเกตให้ฟ้าสว่างชัด ถ้าขอบฟ้ายังเป็นสีเหลืองอมฟ้า อย่าได้รีบเคลื่อนย้าย ระวังอย่าให้ทุกคนหรือเด็กๆโดนฝนเป็นอันขาด เพราะในก้อนน้ำแข็งที่หล่นมาจากฟ้านั้นมีเชื้อโรค ที่ยาในรายการที่ลุงเตรียมไว้ให้หามาไว้ในห้องยาของเราไม่ครอบคลุม ลุงได้ตรวจสอบกับครูบาอาจารย์แล้ว ตรงกันก็คือวันฟ้าดับนั้นประมาณ 3 วัน (หากดับ 3 วัน เป็นเวลาโลกนอนลงหลังจาก เกิด Severe Wobble อยู่ 9 วัน มีแผ่นดินไหวขนาด 8-10 ริกเตอร์ต่อเนื่องทั่วโลก โดยแผ่นเปลือกโลกแผ่นต่างๆเคลื่อนตัวถึงกันหมด แกนพลังงานโลกแกว่งเป็นรูปเลข 8 วันละ 2 ครั้งพื้นที่ชายทะเลจะมีคลื่นสูง 100-200 ฟุตเกิดขึ้นเป็นเครื่องสังเกต โดยดาวหาง PX ลงมาอยู่ใกล้โลกมาก)

ซึ่งหลานอย่าได้กังวลเกี่ยวกับวันเวลาเพราะ ในสิ่งที่ลุงไปเห็นมา มันมืดจนแยกเวลาไม่ออกอยู่แล้วว่าผ่านไปเทียบกับกี่วันในเวลาโลกปกติ ในส่วนที่อื่นๆหลานอย่ารู้มากกว่านี้เลย เพราะจำทำให้จิตใจเศร้าหมองกับการจากไปของญาติพี่น้องคนที่รู้จักมากมาย ขอให้หลานอย่าได้หยุดตั้งใจฝึกจิตของหลานให้มีร่างจิตสามารถสื่อสารได้ และสามารถแยกจิตออกจากร่างกายจนชำนาญนั้นก็จะช่วยให้หลานเป็นที่พึ่งของคนอื่นๆได้ วันนี้คงได้แค่นี้สายตาลุงชักจะไม่ใหวแล้ว

ในส่วนของบัญชีเงินฝากของลุง ที่มีในธนาคาร กรุงเทพ กรุงไทย และกสิกรไทย ลุงได้เซ็นใบถอนทิ้งไว้แล้ว หลานเบิกและย้ายมารวมกันในบัญชีธนาคารกรุงไทย ที่ลุงให้หลานใช้ในการซื้อของจัดเตรียมสร้างตู้คอนเทนเนอร์ให้หมด จะได้สะดวกในการทำงาน เพราะถ้าหลังจากนี้ลุงบวชเงินก้อนนี้ก็คงไม่จำเป็นสำหรับลุงแล้ว (ก่อนจะมืดไป 3 วัน คุณ Zeta ให้ตารางการเกิดการย้ายขั้วเอาไว้ดังนี้)

9 day Severe Wobble

4.5 days static Lean to the Left

2.5 days progression toward 3 Days of Darkness.

3 Days of Darkness

6 days of Sunrise West

18 day of Slowing Rotation

6 (5.9) days of Rotation Stoppage

3. เรื่องราวที่จะเกิดขึ้นหลัง จากวันฟ้าดับ

วันนี้วันที่ 15 แล้ว ลุงมีเวลาอีกสองวันที่จะบันทึก ก่อนที่จะเดินทางไปตามกำหนดที่ได้นัดหมายกับพระอาจารย์ไว้ ลุงจะพยายามบันทึกสิ่งที่มีประโยชน์กับหลาน และคณะที่เตรียมการกันมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และความสามารถและสายตาลุงสามารถทนได้กับจอคอมพิวเตอร์นี้ วิกรม…ที่ลุงต้องรีบให้หลานอพยพหลังจากที่ฟ้าสว่างแล้วนั้น เพราะหลังจากนั้นอีกไม่เกิน 10 วันศพคนตายที่มีจำนวนมากได้เริ่มเน่าเหม็น แม้ส่วนใหญ่สายน้ำจะได้พัดพาไปด้วยแล้ว แต่มีอีกเป็นจำนวนมาก ที่เสียชีวิตเนื่องจากหนาวตายจากอุณภูมิที่ก้อนน้ำแข็งได้ตกมาจากฟ้าและไม่ได้เตรียมการเอาไว้ อย่าห่วงของที่เหลือเพราะในหมู่บ้านที่มีการเตรียมการไว้แล้วนั้นมีอาหารเพียงพอสำหรับสมาชิกที่เคลื่อนขึ้นไปทานอย่างประหยัดสามารถอยู่ได้นานกว่าสองปี ซึ่งเมื่อถึงวันนั้น แกนโลกก็คงสมดุลและคนอื่นๆก็คงสามารถปรับตัวได้

ในระหว่างเดินทางนั้น ให้สวมชุดที่ใช้สำหรับการควบคุมโรคไข้หวัดนก ที่ลุงได้ซื้อเตรียมไว้และเมื่อไประหว่างทางเจอฝนให้ใช้ผ้ายางปันโจ กางอีกครั้งอย่าให้เด็กๆลุยฝน ในช่วงหลังจากนี้วิกรมพาน้องๆ หลานๆไปออกกำลังโดยการเดินทุกวัน เพื่อในยามที่ต้องเดินเท้าจะได้ไม่ลำบาก ลุงทดลองเดินสบายๆโดยไม่หยุดเลย ออกจากบ้านแม่ริมตอนเช้า ไปถึงหมู่บ้านเรายังไม่ค่ำนัก ถ้าจำเป็นก็แบกเจ้าตัวเล็กๆ แล้วใช้ตัวลาก บรรทุกของเป๊ แบบล้อสูง ก็คงไม่ทุลักทุเลนัก แต่แน่นอนทางเสียหายหมด แต่เส้นทางที่เดินไปหลานเดินทางไปบ่อยๆ

ถึงจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็คงไม่คลาดเคลื่อนมากนัก ในระหว่างทางถ้ามีการขออาหารหรือสิ่งของก็ให้ไปอย่าขัดขืน แต่ต้องรีบเดินทางให้ถึงก่อนค่ำ เพราะในยามค่ำคืนนั้น มีอมนุษย์ที่หลงหลุดมาจากต่างมิติ ที่คุ้นเคยกับความมืด จะมารบกวนเด็กๆได้ ลุงเล่าเรื่องที่ลุงเห็นผ่านญาณทัศนะให้หลานเตรียมตัวในช่วงนี้ จะได้ประมาณสถานการณ์ได้ ลุงเห็นผู้คนในเมืองที่เสียสติเที่ยวไปคุ้ยเขี่ยหาอาหาร มีการปล้นฆ่ากัน ซากศพก็มีกองระเกะระกะ มีทหารถือปืนเสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่งไม่มีสภาพทหารออกมาปล้น โรงพยาบาลที่ลุงเคยทำงาน ตึกใหญ่ล้มพังเกลื่อนลงมา ถนนหนทางที่เราเคยไป ถนนคนเดินกัน แทบไม่เหลือสภาพให้จำได้ ลุงกำหนดจิตไปที่กรุงเทพ เป็นภาพที่อเนจอนาถใจมากกว่า น้ำยังไม่ลดลงมากเท่าไร แต่สิ่งที่ลอยเกลื่อนคือซากศพคนตาย มีฝูงจระเข้ที่ภูเขาทอง

ลุงเห็นภาพคนที่แก่งแย่งกัน ค้นหาปล้นอาหาร ที่เป็นซากห้างใหญ่ ลุงเห็นภาพซากเขื่อน ที่จังหวัดตากแตก กวาดน้ำไปตามเส้นทาง แทบไม่เหลือสภาพว่านี้เคยเป็นเมืองที่เคยมีผู้คนอยู่มากมาย ลุงเห็นภาพผู้คนที่รอดมาแต่คงอดอาหารบางคนยังใส่สูทอยู่เลย แต่รวมตัวกันไปปล้นแย่งอาหารของคนที่รอดตายคนอื่นๆ มีการฆ่ากัน ภาพคนเสียสติเดินไปเดินมาร้องไห้ หัวเราะ ตีอกชกตัวกันเต็มไปหมด(คุณ Zeta พยากรณ์เอาไว้ล่วงหน้าว่า ในจำนวนผู้ที่รอดชีวิต 10 % จะมีคนเสียจริตปนอยู่ด้วย 4.3 % )

ลุงเห็นภาพพระ 2 รูป องค์หนึ่งหน้าตามีเมตตา ขาวๆอายุประมาณ 4-50 ปี อีกองค์ อ้วนๆคล้ำๆนิดหนึ่ง อายุกะไม่ถูก พร้อมกับลูกศิษย์นับร้อย ๆ คน เดินทางลงจากเขาลูกเตี้ยๆ มีวัดอยู่ข้างบน ลุงไม่แน่ใจว่าที่ไหนนะ ช่วยกันฝังศพ และสวดศพตามมีตามเกิด แต่ที่น่าสนใจคือเขาเป็นชาวบ้านธรรมดาแต่รอดชีวิตมาได้อย่างไร มีการเตรียมการกันอย่างไร โดยที่ไม่แสดงอาการหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย สิ่งที่ลุงพบในร่างจิตนั้น ขนาดชาวบ้านก็ยังรู้ว่าลุงผ่านไป

หลายคนยิ้มให้แสดงว่า มีระดับจิตที่สูงมาก คงเป็นจังหวัดที่ลุงเคยทำงาน ที่มีภูเขาเตี้ยๆละมีวัดบนภูเขา ก็น่าจะแถวนครสวรรค์หรือ ลพบุรี อะไรแถวนั้น เพราะญาณทัศนะของลุงนั้นจะกำหนดจิตไปยังพื้นที่ๆกายเนื้อเคยผ่านมาแล้ว ภาพจะชัดเจนที่สุด ลุงเสนอให้หลานเดินทางไปกราบพระอาจารย์ทั้งสององค์ และหาหมู่บ้านที่มีการฝึกจิตระดับสัมผัสกับญาณทัศนะของคนอื่นที่ผ่านมาได้หวังว่าหลานจะชวนน้องกิ๊บที่ทำงานกรุงเทพให้ลาออกกลับมาทำงานที่เชียงใหม่ได้ ที่เหลือก็คงเป็นภาพคล้ายๆกัน ถึงความสูญเสีย ขอหลานได้เตรียมใจในส่วนของการสูญเสียคนที่หลานรักด้วย ลุงไม่อาจบอกได้ว่าเป็นใคร แต่หลานต้องเตรียมพร้อมกับการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปของสังขารทุกคน ที่เกิดมาร่วมกัน

4. ชาวไทยจะเผชิญกับสิ่งใดบ้าง

บันทึกหน้าสุดท้ายที่จะเขียนถึงหลานก่อนที่พรุ่งนี้ลุงจะออกเดินทางไปเพื่อติดตามพระอาจารย์โสณะ ซึ่งถ้าได้รับอนุญาตจากพระอาจารย์ ลุงคงบวช ตามที่ตัดสินใจไว้ล่วงหน้าก่อนนี้แล้ว ลุงคงไม่มีภาระในทางโลกมากเหลืออยู่แล้วเพราะคุณป้าของหลานได้ลาโลกนี้ไปนานหลายปีแล้ว วันเวลาที่ผ่านมาลุงก็พอมีความสุขทางโลกกับลูกๆหลานๆ และช่วยเหลือคนไข้ไปตามประสา จนสามารถที่จะมีเวลาในการศึกษาในทางธรรมจนชีวิตก้าวมาถึงจุดนี้

บันทึกนี้ลุงบันทึกไว้เพื่อให้ลูกหลานได้ระลึกถึงลุง เพราะหลังจากลุงบวชแล้ว ต้องติดตามพระอาจารย์โสณะ เท่าที่ได้กราบพระอาจารย์พระอาจารย์จะธุดงค์เป็นส่วนใหญ่ และลุงเชื่อมั่นว่าพระอาจารย์จะมีอายุขัยมาหลายร้อยปีมาแล้ว เพราะลุงได้กราบถามพระอาจารย์ว่าพระอาจารย์ทำไมพูดได้หลายภาษา พระอาจารย์ยิ้มๆแล้วบอกว่า เมื่อจิตฝึกมาดีแล้วและมีเวลาศึกษาอะไรนานๆก็ไม่ยากที่จะเข้าใจหลายๆภาษา และถ้าไม่อยากศึกษาก็สามารถสื่อสารกันด้วยจิต ลุงได้ถามว่าพระอาจารย์ชื่อพ้องกับพระในคณะพระที่เดินทางมาจากอินเดียในสมัยพระเจ้าอโศก เพื่อมายังสุวรรณภูมิ พระอาจารย์ยิ้มๆ บอกว่าทำไมคิดว่าพ้องล่ะ ลุงเลยบอกว่าเพราะพระที่มาจากอินเดียรูปนั้น ถ้ายังอยู่อายุคงเป็นพันกว่าปีแล้ว พระอาจารย์ไม่ตอบ แต่เบี่ยงไปว่า ในดินแดนจาตุมหาราชิกา หรือรอยต่อนั้น พรรษาหนึ่งกับบ้านเรานานกว่านั้นแล้วนะ และที่ลุงมั่นใจเพราะว่าระดับจิตเจโตของลุงไม่สามารถเทียบเคียงกับจิตของพระอาจารย์ได้ ที่สูงกว่าพระที่มีชื่อเสียงในบ้านเราที่ลุงไปกราบมาแล้วตั้งมากมาย จึงคาดว่าอาจจะได้พบกับหลาน หรือว่าไม่มีโอกาสอีกเลยก็ได้ แต่หวังว่าหลานจะฝึกจิตจนร่างจิตสามารถที่จะติดต่อกับลุงได้ในที่สุด

วิกรม… สิ่งที่ลุงได้บันทึกเล่านี้เป็นการบันทึกที่ผ่านญาณทัศนะของลุงในระดับจิตที่ลุงมีอยู่ สามารถเดินหน้าถอยหลังชัดเจนในพื้นที่ๆกายเนื้อของลุงเคยไปสัมผัสในบริเวณนั้นๆ แต่ที่ผ่านมาลุงมีโอกาสได้เดินทางไปเกือบทั่วทุกจังหวัด เพราะไปทั้งราชการและป้าของหลานเป็นคนชอบเที่ยว ทำให้การผูกจิตเข้ากับจุดที่กายเนื้อผ่านไป มีความชัดเจนในภาพรวมที่พอจะช่วยหลานได้พอสมควร

สุดท้ายที่ลุงจะบอกกับหลานก็คือ ต่อไปประเทศไทยหลังวันที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ลุงไม่แน่ใจว่าในญาณที่ลุงผ่านไปนั้น ลุงเห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางดอยสุเทพ หรือขึ้นผิดทาง ที่เราเคยเห็นมาโลกคงเปลี่ยนไปมากทีเดียว ลุงใช้เวลาหลายคืนในระยะที่ผ่านมาเพื่อกำหนดยังที่ต่างๆ หลานจะได้เห็นประเทศไทยเปลี่ยนไป เหนือกับอีสานยังพอมีเหลือคนไทยอยู่มาก น่าสงสารคนภาคใต้ ที่โชคร้าย ที่น้ำทะเลสูงเท่าตึก 5 ชั้น 7ชั้น กวาดเข้ามาในแผ่นดินตอนที่โลกเหมือนจะชนกับอะไรซักอย่างที่ลุงเล่าให้ฟังแล้ว จนคนที่รอดตายเหลือน้อยอยู่แล้วก็จะมาตายกับลูกเห็บยักษ์อีก หลังจากนั้นลุงเห็นคนที่รอดตาย กำลังจะไปหาอะไรทานเพราะความหิว กลับถูกน้ำทะเลมากวาดคนลงไปให้ปลา กินเป็นอาหารอีกมากมาย ภาคใต้คนจะเหลือน้อยจริงๆ

ในส่วนของเมืองกรุงเทพของเราก็คงจะจมลงในน้ำที่เกิดจากเขื่อนพัง มีคนตายมากมาย และกว่าน้ำจะลดลง จำนวนคนตายมากจนคนไม่กล้ามาอยู่ เพราะวิญญาณที่ไม่รู้ว่าตัวเองตายแล้ว วนเวียนหาคำตอบให้ตัวเองมากมายไปหมด ใครที่เข้ามาโดยจิตที่อ่อนแอแล้ว จะถูกดวงวิญญาณเหล่านี้พยายามที่จะเข้ามาหาคำตอบ น่ากลัวจนคนไม่กล้ามาจนกลายเป็นเมืองร้าง คนที่มีมากที่สุดแต่กลับเดือดร้อนที่สุดกับคนภาคอีสาน เพราะขุดบ่อน้ำตรงไหนก็เจอแต่หิน บ่อที่เคยมีน้ำ กลับกินไม่ได้เลยกลายเป็นน้ำที่เค็มกว่าทะเล (ระหว่างที่โลกกำลังจะย้ายขั้ว แมกม่าใต้โลกได้ขับดันเกลือทะเลใต้แผ่นดินขึ้นมาปนกับแหล่งน้ำ และอาจมีโลหะหนักเป็นพิษปนเปื้อนอยู่ด้วย โดยคุณ Zeta ให้ดื่มน้ำกลั่น ให้สร้างหม้อกลั่นน้ำเอาไว้)

ลุงเห็นภาพคนเป็นหมื่นเป็นแสนเดินไปอยู่ริมน้ำโขงมากมาย และสุดท้ายคนอีสานข้ามไปอยู่ฝั่งน้ำโขงไปอยู่ประเทศลาว มีพระอาจารย์ที่หูเป็นปานพาชาวบ้านเดินข้ามน้ำไปทางเหนือของเรา อาหารการกินถ้าไม่ได้มีการกักเก็บไว้ล่วงหน้าจะเจอกับปัญหา เพราะอากาศจะหนาวมาก ลุงกำหนดจิตไปที่ภูเขา เจอหิมะบนยอดเขา ตอนแรกคิดว่าอธิษฐานผิดที่ไปเมืองนอก แต่กลับไม่ใช่ ลุงเห็นภาพพระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่กลางหิมะขาวโพลน กว่าจะปรับตัวกันได้ ก็คงจะลำบากหน้าดู แต่อย่างไรก็ตาม ลุงโซ๊ะที่ปลูกพืชเมืองหนาวมาตลอดชีวิตน่าจะช่วยให้คำแนะนำหลานได้ อีกอย่างโรงเขี่ยเชื้อเห็ด เพาะเห็ด ที่ให้พะดีดูแลอยู่ก็น่าจะช่วยเรื่องอาหารได้ นานพอสมควร ที่หลานๆจะได้ปรับตัวกันได้

หวังว่าสิ่งที่ลุงบันทึกนี้ จะเป็นประโยชน์กับหลาน ไม่มากก็น้อย ในการเตรียมการ ส่วนอุปกรณ์ที่ลุงได้เตรียมให้พวกเราไว้ทั้งเป้อุปกรณ์ยังชีพ วิทยุสื่อสาร ชุดป้องกันโรค และอื่นๆขอให้หลานได้ตรวจสอบตามวงรอบที่ลุงได้ทำแผ่นบันทึกให้ตรวจสอบและสับเปลี่ยนยา อาหารหลอดในเป้ รวมทั้งชุดป้องกันเชื้อ ส่วนอาวุธปืน มีดสนาม ขอให้รักษาให้ดี ปืนนั้นทะเบียนเป็นชื่อลุง ก็คงไม่เป็นไร เอาไว้ป้องกันตัวจากสัตว์ร้าย ขอหลานได้ตั้งใจฝึกจิตและพาน้องๆหลานๆฝึกด้วยกับหลาน ส่วนเจ้าตัวเล็กๆทั้งหลายให้ฝึกสวดมนต์ในบทที่ลุงเตรียมไว้ให้ ลุงเขียน Username และ Password ไว้ที่หน้าจอแล้ว ถ้าไม่ลำบากคิดจะทำบุญก็ให้หลานไปตามข้อมูลและติดตามข่าวจากในเว็ปพลังจิตก็จะได้ประโยชน์จากการหาของที่จำเป็นและวิธีการในการเตรียมความพร้อม ขอคุณพระศรีรัตนตรัยได้คุ้มครองหลานๆด้วย สิ่งใดๆที่ลุงได้ล่วงเกินหลานๆและทุกคน โปรดเมตตาอโหสิกรรมลุงด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น