วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555

ตำนานสวรรค์

เรื่องเล่านับตั้งแต่บรรพกาลนามา หลังจากเพลิงประลัยกัลป์ทำลายล้างโลกแล้วเมื่อนานมาแล้วมากๆ ขณะนั้นมีเพียงอากาศที่ว่างโลก มีเพียงอากาศธาตุ ที่เป็นจิตวิญญาณ เท่านั้นเอง มีอากาศธาตุที่เป็นผู้มีความศักสิทธิ์ คือ พระเวท และมีอากาศธาตุอีกท่านหนึ่งที่มีความศักสิทธิ์และไม่มีตัวตน คือพระธรรมจักร ครอบครองอากาศธาตุที่ว่างเปล่าอยู่ทางด้านเหนือของจักรวาล มีบารมีธรรมมากและสูงสุด และมีพระอากาศธาตุต่างๆอยู่ในจักรวาล

เริ่มต้นทั้งสองอยู่กันอย่างสันติสุข แต่มาคราวหนึ่งพระเวท ที่จิตใจมีกิเลสพอกพูนมีความโลภโกรธหลงในจิตสัญดาน จึงได้คิดหาช่องทางกำจัดพระธรรม เพื่อหวังครอบครองเป็นใหญ่แต่ผู้เดียว กาลครั้งแรกๆ พระเวทก็ขบคิด และลองอิทธิฤทธิ์สร้างพายุใหญ่น้อย เพื่อหวังทำลายพระธรรมจักรให้จงได้ กี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่สามารถทำลายพระธรรมจักรได้ เพราะพระธรรมจักรอยู่ในความสงบเย็นและเหมือนไม่มีสิ่งใด อาการที่ไม่สะทกสะท้านต่อการทำลายล้างของพระวท ยิ่งกระพือกิเลสให้พระเวท ยิ่งโกรธแค้นเป็นอันมากถึงขนาดรวบรวมอิทธิฤทธิ์ที่มีหวังพิชิตพระธรรมจักรให้ได้ ด้วยการสร้างพายุใหญ่ด้วยอานุภาพร้ายแรง แม้แต่ก้อนเมฆก็กระจุยกระจายเสียหายยับเยิน กลายเป็นละลองนำ สำแดงเดชพ่นไฟกรดอาคมออกจากปาก แต่กาลสุดท้ายพระธรรมจักรเพียงแค่โปรยปรายสายฝนด้วยฤทธิ์บารมีก็สามารถทำลายล้างอำนาจมืดได้ทันที แล้วสงบนิ่งดังเดิม

ไม่ว่าพระเวทจะกระทำการใดๆ ก็ตามก็ไม่สามารถต่อกรกับพระธรรมที่มีความสงบได้ จึงคิดกลเล่ห์ แจ้งแก่เจ้าแห่งพระอากาศธาตุว่าพระธรรมจักรคิดการใหญ่หวังทำลายล้างผู้อื่นและยกตนขึ้นเป็นใหญ่แล้วยุยงพระอากาศธาตุทั้งหลายร่วมกันทำลายพระธรรมจักรให้สิ้นไป จอมอากาศธาตุจึงร่วมประชุมพระอากาศธาตุทั้งสิบทิศ เพื่อขอความเห็นในเรื่องนี้ ในที่สุดทุกพระอากาศธาตุเห็นพ้องต้องกันว่าเรื่องนี้เป็นจริงต้องรีบกำจัดพระธรรมจักร มีเพียงพระเทพอุดรและพระเทพบูรพา สองพระอากาศธาตุเท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย ทั้งแปดรวมทั้งพระเวท จึงเร่งไปหาพระธรรมเพื่อก่อสงครามอวกาศ โดยมีเทพอุดรและบูรพาเท่านั้นที่คอยปกป้องพระธรรมจักร

เมื่อพระอกาศธาตุทั้งหมดไปพบพระธรรมจักรก็เกิดการรบพุ่งกัน เกิดเสียงดังกัมปนาท อิทธิบารมีต่างๆ ถูกนำมาใช้แทบสิ้น ทั้งไสยศาสตร์ เวทมนต์คาถา แม้พายุใหญ่ก็หวังโหมกระหน่ำเข้าหาพระธรรมจักร แต่ในที่สุดพระธรรมจักรเพียงแค่อ้าปากออกกว้างรับเหล่าบริวารของพระเวท เข้าปากจนหมดสิ้น แต่ก็ไม่สามารถทำอันตรายพระธรรมจักรได้ แล้วพระธรรมจักรก็สงบนิ่งดังเดิม ไม่โกรธแค้นต่อการกระทำใดๆของพระเวท

สุดท้ายพระเวทจึงคิดได้ว่า ตนไม่สามารถเอาชนะพระธรรมจักรได้ และคิดได้ว่าสิ่งที่ตนทำนั้นผิด สำนึกได้ จึงขออโหสิกรรมต่อพระธรรมจักร และกลับตัวกลับใจใหม่ และพระธรรมก็อธิบายข้อธรรมที่เป็นสิ่งเค้าจุนโลก หากขาดธรรมก็จะถึงจุดจบ

นับแต่นั้นมาพระธรรมจักรกับพระเวทจึงเป็นมิตรและมีความซื่อสัตย์ต่อกัน อยู่มาวันหนึ่งพระอากาศธาตุและพระธรรมจักรได้ร่วมปรึกษาราอกันว่า อากาศธาตุที่เราทั้งหลายดำรงอยู่นี้ว่างเปล่ามาช้านาน พระธรรมจักรเสนอว่า น่าจะมีการสร้างสรรค์ ส่วนของรูปร่างตัวตน เพื่อให้ชาวอากาศธาตุได้หาความสุขสำราญกัน ต่อไปภายภาคหน้าจะได้มีการสร้างตัวตน

และในที่สุดที่ประชุมได้ตกลงกันว่าจะสร้างโลก และได้มีการแบ่งงานกันทำ

โดยกำหนดว่าจะต้องสร้างกลุ่มองค์เทพก่อน เพื่อองค์เทพจะได้สร้างมนุษย์และสรรพสัตว์ ในการสร้างโลกไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ประชุมจึงตกลงกันว่าเรื่องนี้ต้องให้พระเทพบิดร หรือพระกัศยปะ ซึ่งเป็นผู้เดียวเท่านั้นที่จะสร้างกามาพจรสวรรค์ได้ และให้มีพระอทิติเทพมารดรเป็นพระชายา และให้เขาเหมกูฏบรรพต ซึ่งเป็นสถานที่บำเพ็ญตบะของพระกัศยปะเป็นสวรรค์ 26 ชั้น ในตอนแรกของการสร้างสวรรค์ ทุกองค์ที่ร่วมประชุมกันต่างหลับตาภาวนาขอบารมีแต่ละองค์ที่สะสมกันมาทั้งพระธรรมจักร พระเวท พระไสยศาสตร์ นั่งรายล้อมกัน โดยมีนางทิติ เป็นพระชายาอีกองค์ของพระกัศยปะ หลังจากสมธิจิตไภยหลังด้ที่ ก็บังเกิดการสั่นสะเทือนกัมปนาทเกิดหมอกควันคลุมมืดมิด

ภายหลังการอธิษฐานสิ้นสุดลง พระกัศยปะ ก็กลายเป็นเทพบุตรรูปงามส่วนชายาอีกสององค์คือพระอทิติกับนางทิติก็กลายเป็นเพทธิดารูปงาม มีรูปร่างตัวตน อย่างมีสง่าราศี หลังจากนั้นก็ให้กำเนิดโอรส รุ่นแรก ได้รับนามว่าพระอิศวร และมีพระชายาชื่อพระศรมหาอุมาเทวี และเกิดโอรสธิดา รุ่นต่อๆมา ร่นแรกได้แปดองค์ มี

พระพิรุณ พระมิตราทิตย์ พระอรยมนาทิตย์ พระภคาทิตย์ พระองศาทิตย์ พระอินทร์ พระธาตราทิตย์ และพระอาทิตย์

สำหรับนางธิติให้กำเนิดพวกอสูร แทตย์ เทวดา พญานาค คนธรรพ์

เมื่อเริ่มจะสร้างโลกพระอิศวรก็ใช้อิทธิฤทธิ์ลูบพระหัตถ์ขวาสามครั้งก็บังเกิดพระนารายณ์ จากนั้นก็มอบหมายให้พระนารายณ์เป็นเหมือนตำรวจมีหน้าที่ปราบบนสวรรค์ จากนั้นก้ลูบพระหัตถ์ซ้ายสามครั้งก็บังเกิดพระพรหม จากนั้นพระอิศวรก็สร้างพระวิศวกรรม ต่อมจากนั้นก็ให้ทั้งสามองค์ และพระอุมาเทวี บันดาลให้เกิดเขาพระสุเมร เป็นโลก

ต่อจากนั้นจึงให้พระโอรส ธิดา เร่งสร้างมนุษย์ สรรพพสัตว์ พืชพันธุ ต่างๆบนโลก

ในเวลาต่อมาพระอิศวรก็ได้ทรงเห้นคุณประโยชน์ที่ชาวพระอากาศธาตุเป็นผู้สร้างตัวตนของสวรรค์ขึ้นจึงประกาศแต่งตั้งและสร้างตัวตนให้กับพระอากาศธาตุทั้งแปดให้มีรูปร่างตัวตน เป็น พระพุธ พระเสาร์ พระพฤหัสบดี พระราหู พระศุกร์ พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระอังคาร พระเกตุ

สำหรับสองพระอากาศธาตุสององค์คือพระเทพอุดร และพระเทพบูรพา มีความชอบเป็นอันมากที่ได้เคยปกป้องคุ้มครองพระธรรมจักรเอาไว้ เมื่อครั้งเกิดสงครามพระอวกาศ ให้มีรูปร่างตัวตนเป็นเทพบุตรมีวิมานอยู่บนเทวโลก รอคอยให้พระธรรมจักรได้ลงไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้า พระเทพอุดรจะไปบังเกิดเป็นพระโมคัลลานะ ส่วนพระเทพบูรพาไปบังเกิดเป็นพระสารีบุตร ในโลกมนุษย์ต่อไป

ต่อจากนั้นพระอิศวรได้ทำการมอบรางวัลให้กับพระอากาศธาตุอื่นที่มีส่วนได้สร้างองค์เทพดังนี้

1. พระเวท ได้บังเกิดรูปร่างตัวตน เป็นท้าวเวสสุวรรณ

2. พระมนต์ ให้บังเกิดเป็นท้าววิรุฬหก

3. พระคาถา ให้บังเกิดเป็นท้าวธตรฐ

4. พระไสยศาสตร์ ให้บังเกิดเป็นท้าววิรูปักษ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น